กรรชัย เปิดใจ ไม่ได้อำมหิต หลังตำรวจบุกรวบ คุณนายดาว ในโหนกระแส

กรรชัย เปิดใจ ไม่ได้อำมหิต หลังตำรวจบุกรวบ คุณนายดาว ในโหนกระแส

หนุ่ม กรรชัย เปิดใจกรณี เจ้าหน้าที่ตำรวจบุกมารวบตัว คุณนายดาว หญิงนักต้มตุ๋นที่อ้างซี้ประวิตร ตามหมายจับ หลังจบรายการโหนกระแส แทบจะเป็นทอล์คออฟเดอะทาวน์ประจำสัปดาห์นี้ สำหรับรายการ โหนกระแส ที่พิธีกร “หนุ่ม” กรรชัย กำเนิดพลอย ได้สัมภาษณ์แขกรับเชิญ คุณนายดาว ผู้ต้องหาซึ่งอ้างเป็นภรรยา ส.ส.และรู้จักรัฐมนตรีคนดัง อาทิ ประวิตร วงษ์สุวรรณ พร้อมกับผู้เสียหาย ซึ่งมาให้ข้อมูล พร้อมกับชี้แจงข้อเท็จจริงในประเด็นต่างๆ ทั้งเรื่องการหลอกเงินลงทุนจนผู้เสียสูญเงินไปเกือบล้านบาท

อย่างไรก็ตาม แม้พฤติกรรมของคุณนายดาว จะน่ากลัวแล้ว 

แต่อีกสิ่งที่ผู้คนสนใจ คือ ตอนท้ายรายการที่ กรรชัย ได้แจ้งกับคุณนายกำมะลอว่า คุณทราบหรือไม่ว่าตัวเองมีหมายจับ และตอนนี้เมื่อก้าวออกจากสตูดิโอ ตำรวจจะเข้าจับกุมทันที ซึ่งบทสรุปก็เป็นไปตามที่พิธีกรคนดัง กล่าวไว้จริง เพราะ ตำรวจ สน.ทองหล่อ ได้เดินทางมาพร้อมหมายจับจากศาลแขวงนครศรีธรรมราช ลงวันที่ 16 ธ.ค. 2564 ก่อนทำการแจ้งสิทธิ์และข้อหาที่ถูกดำเนินคดี แล้วควบคุมตัวไปดำเนินคดีตามกฎหมาย จนต่อมาชาวเน็ตขนานนามให้เป็นตำนานบทใหม่ของ โหนกระแส ซึ่งแทบจะเป็นครั้งแรกที่แขกรับเชิญมาออกรายการ แล้วถูกจับไปดำเนินคดีต่อแบบสายฟ้าแลบ

สำหรับประเด็นนี้ หนุ่ม กรรชัย ที่ต่อมาถูกเฟซบุ๊กแฟนเพจ Drama-addict แซวด้วยการยกคำพูดของ “มดดำ” คชาภา ตันเจริญ พิธีกรคู่ซี้ว่า “กรรชัย เธอมันอำมหิต” ก็ออกมาเปิดใจถึงปมฮือฮานี้อีกครั้ง ในวันนี้ (23 ธ.ค.64) ยืนยันตนเองไม่ได้อำมหิต แค่ทำตามหน้าที่พลเมืองดี

“มีหลายคนถามว่าเกิดอะไรขึ้น รู้มาก่อนมั้ย มีการเตรียมกับตำรวจหรือไม่”

“เรื่องของคุณนายดาวและตำรวจที่มาจับกุมเมื่อวานนี้ ไม่รู้มาก่อนว่า คุณนายดาวมีหมายจับ แต่คุณดาวมาคุยกับทีมงานผม ว่าอยากเจอมานานแล้ว ก็เลยซื้อตั๋วเครื่องบินให้ จนเหตุการณ์มาเกิดขึ้นที่โหนกระแส แขกรับเชิญเอาหมายจับมาให้ผมดูบนโต๊ะ จากนั้นทีมงานส่งไลน์เข้ามา พี่จะเอายังไง ตำรวจดูอยู่นะ ถ้าผู้ชมสังเกตที่ผมกดๆ อะไรอยู่ หน้าจอ คือ คุยไลน์กับทีมงานว่าให้เรียกตำรวจมาเลย ผมพูดมาตลอดใครก็ตามที่มีหมายจับกรุณาแจ้งตำรวจเลย แล้วผมเห็นคนที่มีหมายจับมานั่งอยู่ข้างๆ ถ้าไม่ทำก็เหมือนกลืนน้ำลายตัวเอง เป็นไปตามข้อกฏหมายจริงๆ ถือเป็นหน้าที่ของพลเมืองดี ไม่ได้อำมหิต แค่ทำตามหน้าที่” กรรชัย เปิดใจผ่านรายการข่าว เที่ยงวันทันเหตุการณ์ สถานีโทรทัศน์ ช่อง 3

ในส่วนของคดี อ้างอิงข้อมูลจาก ไทยรัฐ ล่าสุด ตำรวจ สภ.เมืองนครศรีธรรมราช ได้เดินทางไปรับตัว น.ส.อาญาภา อิสริยาฐากูล หรือ “คุณนายดาว” จาก สน.ทองหล่อ กทม. คุมตัวมาดำเนินคดีที่นครศรีธรรมราช โดยเดินทางมาถึงเมื่อเช้ามืดของวันนี้ แล้วคุมตัวเข้าห้องขังทันที ซึ่งตำรวจได้ใส่กุญแจมือตลอดเวลาของการสอบสวน และไม่อนุญาตให้สื่อมวลชนบันทึกภาพ ซึ่งผู้ต้องหาได้ให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา และยังมีสีหน้ายิ้มแย้มตลอดเวลา ก่อนกล่าวกับผู้สื่อข่าวว่า ยืนยันในความบริสุทธิ์ของตัวเองว่าไม่ได้ทำผิด

ศาลอนุญาตประกัน 2 เพื่อนสนิท คดีหมอศรุต วางหลักคนละ 5 แสนบาท

ศาลอาญาอนุญาตประกันตัว 2 เพื่อนสนิทผู้ต้องหาโยนตึกหมอศรุตจาก คดีหมอศรุต คดีปี 2553 โดยวางหลักคนละ 5 แสนบาท เมื่อช่วงเวลา 16.00 น. ของวันที่ 23 ธ.ค. ศาลอาญาได้สั่งอนุญาตปล่อยตัวชั่วคราว นายแพทย์ปราโมทย์ กับนางสาวจิตพิมล จำเลยในคดี โยนตึกหมอศรุต คดีเมื่อปี พ.ศ. 2553 โดยใช้หลักทรัพย์เป็นโฉนดที่ดินกู้เงินคนละ 500,000 บาทประกันตัว

โดยในวันเดียวกัน ศาลได้พิจารณาพยาน หลักฐาน ทั้งพยานบุคคลและพยานหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์มาประกอบแล้ว เชื่อว่าจำเลยทั้ง 2 กระทำผิดจริง ศาลพิพากษาลงโทษจำเลยทั้ง2 ร่วมกันฆ่าผู้ตายจริง ไม่ใช่กรณีที่ผู้ตายฆ่าตัวตายโดยมีสาเหตุจากเรื่องชู้สาว จำคุกจำเลย คนละ 15 ปี แต่จำเลยทั้งสองให้การเป็นประโยชน์ จึงลดโทษให้ 1 ใน 3 คงจำคุกจำเลยที่ 1-2 คนละ 10 ปี และให้จำเลยทั้งสองร่วมกันชดใช้ค่าเสียหายเป็นเงิน 5 ล้านบาท พร้อมดอกเบี้ยในอัตราร้อยละ 7.5 ต่อปี ให้กับมารดาผู้ตาย

คดีของหมอศรุตนั้นเป็นคดีโด่งดังในปี 2553 หลังจากที่ จำเลยทั้งสองได้ถูกกล่าวหาว่าร่วมกันโยน นพ.ศรุต ทวีรุจจนะ จากชั้น 4 ซึ่งมีความสูงประมาณ 9.76 เมตรของอะพาร์ตเมนต์แห่งหนึ่ง แขวงคลองจั่น เขตบางกะปิ กรุงเทพฯ ทำให้ร่างของนายแพทย์ศรุตกระทบพื้นคอนกรีตจนถึงแก่ความตาย เมื่อวันที่ 18 เม.ย. 2553

ปิดฉาก 11 ปี ศาลตัดสินจำคุกคนร้าย 15 ปี ปรับอีกคนละ 5 ล้าน คดีหมอศรุต คดีโยนหมอศรุตตกตึกในปี 2553 ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก ได้นัดฟังคำพิพากษาในคดีอาญาหมายเลขดำที่ อ 1794/2563 คดีระหว่างพนักงานอัยการสำนักงานอัยการสูงสุดเป็นโจทก์ ยื่นฟ้อง นพ.ปราโมทย์ จำเลยที่ 1 และ น.ส.จิตวิมล จำเลยที่ 2 ในข้อหาร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา ที่ห้องพิจารณาคดี 711

โดยคดีนี้เป็นคดีที่โจทก์ได้ฟ้องจำเลยทั้งสอง ว่า จำเลยทั้งสองได้ร่วมกันโยน นพ.ศรุต ทวีรุจจนะ จากชั้น 4 ซึ่งมีความสูงประมาณ 9.76 เมตรของอะพาร์ตเมนต์แห่งหนึ่ง แขวงคลองจั่น เขตบางกะปิ กรุงเทพฯ ทำให้ร่างของนายแพทย์ศรุตกระทบพื้นคอนกรีตจนถึงแก่ความตาย เมื่อวันที่ 18 เม.ย. 2553

ซึ่ง ศาลได้พิจารณาพยาน หลักฐาน ทั้งพยานบุคคลและพยานหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์มาประกอบแล้ว เชื่อว่าจำเลยทั้ง 2 กระทำผิดจริง ศาลพิพากษาลงโทษจำเลยทั้ง2 ร่วมกันฆ่าผู้ตายจริง ไม่ใช่กรณีที่ผู้ตายฆ่าตัวตายโดยมีสาเหตุจากเรื่องชู้สาว จำคุกจำเลย คนละ 15 ปี แต่จำเลยทั้งสองให้การเป็นประโยชน์ จึงลดโทษให้ 1 ใน 3 คงจำคุกจำเลยที่ 1-2 คนละ 10 ปี และให้จำเลยทั้งสองร่วมกันชดใช้ค่าเสียหายเป็นเงิน 5 ล้านบาท พร้อมดอกเบี้ยในอัตราร้อยละ 7.5 ต่อปี ให้กับมารดาผู้ตาย

Credit : แนะนำสถานที่ท่องเที่ยว | แต่งบ้านและสวน | พระเครื่อง | รีวิวกล้องถ่ายรูป